Stay connected
SITEMAP
Open/Close Menu
Skip to content
HOME
ABOUT US
SERVICES
FACTORY FACILITIES AND MACHINES
FACADE MANUFACTURING SERVICES
FACADE DESIGN & ENGINEERING SERVICES
FACADE TESTING SERVICES
STEELWORK
PROJECTS
NEWS
CONTACT US
กิจกรรมปลูกป่า ยิงเมล็ดไม้มะค่าโมง ปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
กิจกรรมปลูกป่า ยิงเมล็ดไม้มะค่าโมง ปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
23 พฤศจิกายน 2567
© 2015 KASKAL CO.,LTD. All rights reserved.
contact admin: info@kaskalthai.com
เว็บไซต์นี้มีคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทฯปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม
Read More
Manage consent
Close
Privacy Overview
1. บทนำ
เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัท แคสแคล จำกัด (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัทฯ”) จึงจัดทำคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) เพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงวิธีการที่บริษัทฯปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือ การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม ที่ทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยการจัดเรียง การนำมารวมกัน การจำกัด หรือการห้ามเข้าถึง การลบ หรือการทำลาย
บริษัทฯจึงขอแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตลอดจนสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจถึงข้อกำหนดต่างๆภายใต้ประกาศฉบับนี้ โดยมีรายละอียด ดังต่อไปนี้
2. กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้ประกาศฉบับนี้ กลุ่มหรือประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบด้วย
ลูกค้า หมายถึง บุคคลที่ซื้อสินค้า ใช้บริการ ว่าจ้าง จากบริษัทฯ
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือ บุคลากรใดๆของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และรวมถึง ผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎในเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดการ ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
3. วิธีที่บริษัทฯเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯโดยตรง
ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯโดยตรง เช่น
– เมื่อท่านติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็นหรือคำติชมแก่บริษัทฯไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในรูปแบบลายลักษณ์อักษรหรือวาจา ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น โทรศัพท์ อีเมลล์ โทรสาร ไปรษณีย์ การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
– เมื่อท่านแสดงเจตนาสั่งซื้อสั่งจ้าง สินค้าและบริการจากบริษัทฯ เข้าทำสัญญากับบริษัทฯ หรือส่งมอบเอกสารต่างๆ ซึ่งมีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎอยู่มาให้แก่บริษัทฯ
– เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด หรือกิจกรรมอื่นๆที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของบริษัทฯ เป็นต้น
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯได้รับมาจากบุคคลภายนอก
บริษัทฯอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลภายนอก เช่น
– การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่างๆของบริษัทฯ เช่น ผู้ให้บริการเว็บไซต์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์แนะนำสินค้าและบริการ ผู้ให้บริการรวบรวมข้อมูล เป็นต้น
– บางกรณี บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของท่าน หรือแหล่งข้อมูลทางการค้า ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยตนเองหรือได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ใดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังกล่าว
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านจะได้รับการแจ้งถึงรายละเอียดต่างๆตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ ซึ่งรวมถึงวัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
กรณีที่บริษัทฯเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ บริษัทฯจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านมีสิทธิที่จะยกเลิกความยินยอมได้ โดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในท้ายของประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่าน และดำเนินการตามฐานประมวลผลที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฉบับนี้ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯได้รับมาจากบุคคลภายนอก ได้แก่
ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วันเดือนปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ เป็นต้น
ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่จัดส่งสินค้า สถานที่จัดส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมลล์ ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของลูกค้า เช่น รายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทฯ หรือสถานประกอบการของลูกค้า เช่น ชื่อ เลขทะเบียน สถานที่ตั้ง และ ข้อมูลการติดต่อ เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย ว่าจ้าง เช่น รายละเอียดการสั่งซื้อ รายละเอียดการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้า
ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน เช่น จำนวนเงิน เงื่อนไขการชำระเงิน เลขที่บัญชี ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฎในใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญรับเงิน และใบหักบัญชีเงินฝาก เป็นต้น
ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมกับบริษัทฯ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฎในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อนามสกุล สำเนาใบทะเบียนการค้า สำเนาใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน แบบฟอร์มลงทะเบียน สำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน หนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัทฯ สำเนาภพ. 09 สำเนาภพ.20 แผนที่ เอกสารที่เป็นหลักประกัน เช่น หนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร หนังสือค้ำประกันโดยบุคคล สัญญาซื้อขาย สัญญาว่าจ้าง สัญญาจ้างเหมา หรือสัญญาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม เป็นต้น
ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกเสียงการสนทนา บันทึกภาพนิ่ง บันทึกภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น
5. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ในการทำสัญญาและวางหลักประกัน
ฐานสัญญา
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือ บุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อการเข้าทำสัญญา และกระบวนการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา เช่น การตรวจสอบหลักฐานประกอบการทำสัญญา การพิจาณาวงเงินสินเชื่อ การวางหลักประกัน เป็นต้น
ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
ในกรณีที่ลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการสัญญา การตรวจสอบยืนยันตัวตน เป็นต้น
วัตถุประสงค์ในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานสัญญา
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่ลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นความจำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซื้อขายและบริการ สัญญาว่าจ้าง ซึ่งลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่ลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา
ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
ในกรณีที่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การบริหารจัดการคำสั่งซื้อสั่งจ้างจากลูกค้า เป็นต้น
เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเตรียมสินค้าและบริการ และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ฐานสัญญา
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือ บุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นคู่สัญญา เช่น การจัดส่งสินค้า การวางบิล การยืนยันยอดหนี้ค้างชำระ การจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้แก่ลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นต้น
ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
ในกรณีที่ลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเป็นนิติบุคคล การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือของบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เช่น การติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เป็นต้น
เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า หรือ บุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หรือ บุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ
เพื่อวัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์ รวมถึงเพื่อกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ ฐานความยินยอม
บริษํทฯอาจดำเนินกิจกรรมทางการตลาดใดๆ อาทิ การขอถ่ายภาพนิ่ง หรือ ภาพเคลื่อนไหวของลูกค้า เพื่อนำไปประมวลภาพและประชาสัมพันธ์กิจกรรมการตลาด ตามช่องทางสื่อต่างๆ บริษัทฯจะดำเนินการโดยขอความยินยอมจากท่านก่อนหรือขณะที่ดำเนินกิจกรรม
เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการติดต่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัทฯ เช่น การดำเนินการตามคำขอ การตอบข้อซักถาม หรือ ข้อเสนอแนะของท่าน เป็นต้น
เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯและคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฐานกฎหมาย
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งบังคับใช้กับบริษัทฯ อาทิ กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการค้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
เพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกร้องสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ ฐานประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย
การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯในขั้นตอนต่างๆตามกฎหมาย เช่น การสอบสวนและ/หรือการไต่สวนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การเตรียมคดี การดำเนินคดี และ/หรือ การต่อสู้คดีในชั้นศาล เป็นต้น
เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆที่บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบ บริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทฯต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้นหรือเมื่อบริษัทฯมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนหรือระหว่างการดำเนินการ
เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯจะดำเนินการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้น ในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญากับท่าน เป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมายหรือาจทำให้บริษัทฯไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือ ไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ตามแต่กรณีที่อาจเกิดขึ้นนั้น
6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
6.1. เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ หมายถึง ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือ บุคลากรภายในของบริษัทฯเท่าที่เกี่ยวข้องและตามความจำเป็น
6.2. คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯในการให้บริการต่างๆ เช่น การให้บริการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการเก็บบันทึกข้อมูล บริการชำระเงิน บริการวิเคราะห์ข้อมูล บริการทำการตลาด หรือ บริการอื่นใดที่อาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน หรือเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
6.3. บุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นที่ปรึกษาของบริษัทฯ อาทิ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชี หรือ ผู้เชี่ยวชาญอื่นใดทั้งภายในและภายนอกของบริษัทฯ
6.4. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตามกฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย หรือที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย หรือที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
6.5. บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้นๆ อาทิ การเปิดเผยการประมวลภาพตามกิจกรรมตามช่องทางสื่อต่างๆของบริษัทฯให้แก่ประชาชนทั่วไป
6.6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคลลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือ วัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความบยินยอมจากท่าน บริษัทฯจะขอความยินยอมจากท่านก่อนหรือระหว่างดำเนินการ
6.7. ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น บริษัทฯจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯส่งหรือโอนข้อมูลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯจะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด บริษัทฯจะขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว
7. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี) โดยคำนึงถึงอายุความตามกฎหมาย สำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจากหรือที่เกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯเก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ และคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯและของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทเป็นสำคัญ
ในเบื้องต้น บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯสิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าว หากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ
หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว จากการจัดเก็บหรือระบบของบริษัทฯและของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่บริษัทฯ (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่จะเป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ สำหรับลายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทฯ ตามท้ายประกาศฉบับนี้
8. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทฯ จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลซึ่งครอบคลุมถึง
– มาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ
– มาตรการป้องกันด้านเทคนิค
– มาตรการป้องกันทางกายภาพ
ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูล ประกอบด้วยการดำเนินการ ดังนี้
1) การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลและอุปกรณ์ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลโดยคำนึงถึงการใช้งานและความมั่นคงปลอดภัย
2) การกำหนดเกี่ยวกับการอนุญาตหรือการกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล
3) การบริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งานเพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว
4) การกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งานเพื่อป้องกัน
– การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
– การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
– การล่วงรู้ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
– การลักลอบทำสำเนาข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
– การลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บโดยไม่ได้รับอนุญาต
– การประมวลผลข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
5) การจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับ
– การเข้าถึง
– การเปลี่ยนแปลง
– การลบ
– การถ่ายโอนข้อมูล
ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
9. สิทธิต่างๆของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่างๆที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและขอให้บริษัทฯทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้แก่ท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่าน รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นหรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านอาจขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการระงับใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง หากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม ในกรณีที่บริษัทฯอาศัยความยินยอมของท่านในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯได้
หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัทฯเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯโดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่าบริษัทฯได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
10. วิธีการติดต่อบริษัทฯ
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใดๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อกับบริษัทฯผ่านช่องทางอีเมลล์ datacontroller@kaskalthai.com
11. การเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้
บริษัทฯอาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ โดยบริษัทฯจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงประกาศฯที่มีความสำคัญผ่านช่องทางที่เหมาะสม
test
test